บทที่ 8 ซาตานทวงสิทธิ์ ตอนที่ 8 NC
หลังจากจบคลาสเรียนวันนี้แล้ว โรเจอร์ได้สองสาวไปดื่มให้หายเหนื่อยกันสักหน่อย
“ลัน เอมี่ คืนนี้ไปดื่มแก้เหนื่อยกันหน่อยดีมั้ย”
“เราว่าก็ดีนะ ลันไปด้วยกัน” เอมี่เห็นด้วยกับโรเจอร์เพราะวันนี้ใช้ความคิดกับโปรเจคไปค่อนข้างเยอะ ถ้าได้ออกไปแฮงค์เอ้าท์ก็คงจะดี อีกอย่างเธอจะได้สนิทกับเพื่อนใหม่ทั้งสองคนเร็วๆ ด้วย เพราะเธอก็อยากมีเพื่อนสนิทที่นี่บ้างเหมือนกัน
“เอ่อ...พวกเธอไปกันเลย คือวันนี้เราติดธุระต่อน่ะ” ลันตาตอบปฏิเสธอย่างเกรงใจ เพราะเธอต้องไปที่ที่หนึ่ง คงจะไม่สะดวกเท่าไหร่
“ซะงั้น ไปกันสองคนก็ไม่สนุกสิ” โจเจอร์พูดเสียงอ้อนแอ้น สบตากับลันตาปริบๆ อยากให้ไปด้วยกัน
“งั้นเรารอลันทำธุระเสร็จก่อนค่อยไปดีมั้ย เหลืออีกตั้งหลายชั่วโมงกว่าจะถึงเวลา” เอมี่เสนอความคิดขึ้นมา
“คือเราไม่แน่ใจว่าจะเสร็จธุระตอนไหนน่ะ โรส เอมี่” ตอนนี้เธอไม่อยากไปไหนทั้งนั้นนอกจากจะหาวิธีให้ได้เอกสารฉบับนั้นคืนมา
“อ่ะๆ งั้นก็ได้ แต่ครั้งหน้าเธอต้องไปกับฉันนะ” โรเจอร์บอกเชิงออกคำสั่งกับหญิงสาว เอมี่พยักหน้าเป็นเชิงว่าเห็นด้วยกับโรเจอร์อีกคน ถึงเขาจะไม่รู้เรื่องอะไรของเธอแต่ก็อยากให้เพื่อนยิ้มแย้มออกเปิดหูเปิดตาบ้างไม่ใช่วันๆ เอาแต่หน้านิ่วคิ้วขมวดเหมือนคิดอะไรอยู่ตลอดเวลาแบบนี้
“ได้เลย วันนี้ฉันต้องขอโทษจริงๆ นะ” ลันตาเอ่ยบอกทั้งสองด้วยความรู้สึกผิด
ทั้งสามคนแยกย้ายกันหลังจากเดินคุยกันมาจนถึงที่จอดรถ โรเจอร์กับเอมี่ไปช็อปปิ้งด้วยกัน ส่วนลันตาขับรถคันมินิของเธอมาที่หน้าตึกสูงของบรรดาผู้บริหาร เผื่อว่าจะพบกับคนที่เธออยากเจอ วันนี้เขาอาจจะเข้ามาทำงานที่นี่ก็ได้
ลันตาตัดสินใจไปขอเข้าพบเซนต์ เพราะนอกจากวิธีนี้คงไม่มีวิธีอื่นที่ทำให้ได้ของคืน ถ้าหากเธอแอบเข้าห้องเขามีหรือที่คนอย่างเขาจะไม่รู้ ร่างบางเปิดประตูรถฝั่งคนขับขาเรียวขาวมุ่งเดินเข้าไปในตัวตึก ขึ้นลิฟต์ไปยังชั้นผู้บริหารซึ่งอยู่ชั้นบนสุด
ติ๊ง!! เสียงประตูลิฟต์เปิดออก
พบบอดีการ์ดตัวโตที่ยื่นเฝ้าอยู่หน้าลิฟต์ ห้องทำงานของเขากินพื้นที่ไปทั่วทั้งชั้น ไม่มีใครกล้าล่วงล้ำความเป็นส่วนตัว มีเพียงโต๊ะสำหรับเลขาตั้งอยู่เยื้องหน้าห้องใหญ่
ร่างบางของลันตาเดินเข้าไปหาเลขาสาวที่มองมายังเธอตั้งแต่ประตูลิฟต์เปิดออก
“สวัสดีค่ะ ดิฉันมาขอพบคุณเซนต์ ไม่ทราบว่า.....”
“วันนี้คุณเซนต์ไม่เข้ามาที่นี่ค่ะ” เธอยังพูดไม่จบ เลขาสาวหน้าหมวยก็พูดแทรกขึ้นด้วยใบหน้าไม่พอใจสักเท่าไหร่
“แล้วพอจะทราบไหมคะว่าคุณเซนต์จะเข้ามาวันไหน” ลันตาถามเลขาหน้าหมวยต่ออย่างใจเย็น
“ไม่ทราบค่ะ จะมาก็มา ไม่มาก็คือไม่มาค่ะ” เลขาสาวกระแทกเสียงเล็กเสียงน้อยตอบคำถามแบบลอยหน้าลอยตาเอามากๆ เก่งมาจากไหนกันแม่คุณ!
“ขอบคุณค่ะ” พูดจบร่างแบบบางกลับหลังเดินออกมาจากโต๊ะยัยหมวยนั่นทันที ที่นี่ไม่เคยมีใครอบรมเรื่องการพูดกับแขกเหรอ ตอบดีๆ ไม่เป็นหรือไง
ฟู่ววว หญิงสาวหายใจเข้าออกช้าๆ ระงับความร้อนที่มีในใจ เย็นไว้ลัน...
แบบนี้แล้วเธอจะพบเขาได้ยังไงละเนี่ย ตอนไม่อยากเจอกลับเจอทีตอนอยากเจอกลับไม่เจอซะอย่างนั้น ถ้าอย่างนั้นวันนี้ก็คงต้องกลับบ้านก่อนละกัน
ร่างบางจอดรถเรียบร้อยเดินเข้าไปในบ้านก่อนจะปิดประตูลงกลอนแน่นหนา โดยไม่ได้สังเกตเห็นรถคันสีดำมาจอดอยู่ใกล้ๆ ประตูรั้วหน้าบ้านของเธอเลย
วันรุ่งขึ้นลันตาฝืนตื่นเช้าหลังจากนอนคิดเกือบค่อนคืน ตัดสินใจไปตามพบเซนต์ที่บริษัทใหญ่ PETROLEUM D. PARK เนื่องจากวันนี้เธอไม่มีคลาสเรียน
เอาวะ! มาถึงขนาดนี้แล้ว อีกนิดเดียวเธอก็จะรู้ความจริง ฮึบหน่อยลันตา เรียวขาขาวก้าวลงจากเตียงเดินไปยังห้องน้ำเพื่ออาบน้ำแต่งตัว และกลับออกมาด้วยชุดกางเกงยีนสีขาว เสื้อขาวแล้วสวมโค้ทสีน้ำตาลอ่อนทับอีกที
ตอนนี้เวลาเก้าโมงเช้า กว่าเธอจะขับรถไปถึงที่โน่นก็ประมาณสามถึงสี่ชั่วโมง และคงกลับถึงบ้านไม่เย็นมากนัก ร่างบางลงมาจากห้องนอนมุ่งเดินไปที่ห้องครัวเพื่อหาอะไรทานรองท้องก่อนเดินทาง มือเล็กหยิบขนมปังมาทาแยมสองแผ่น และน้ำผลไม้ในตู้เย็นอีกหนึ่งแก้ว เธอกินหมดอย่างรวดเร็วแล้วออกเดินทางทันที
4 ชั่วโมงต่อมา
“นายครับ คุณลันตามาแล้วครับ” ลูกน้องที่ประจำอยู่ PETROLEUM D. PARK รายงานนายใหญ่ผ่านเครื่องมือสื่อสารแบบไร้สาย เห็นหญิงสาวที่กำลังเดินเข้าไปติดต่อแผนกต้อนรับที่ตั้งอยู่กลางตึกใหญ่
“.....” ร่างสูงใหญ่กำยำของเซนต์กำลังยืนมองภาพหน้าจอคอมพิวเตอร์ที่ปรากฏร่างแบบบางคุ้นเคยกำลังยืนติดต่อกับคนของเขาอยู่
ไม่นานพนักงานแผนกต้อนรับก็เดินเข้ามากระซิบการ์ดที่คอยรายงานเขาสักพักก่อนจะเดินกลับไปที่เดิม
“นายครั.....”
“พามาที่เพ้นเฮ้าส์เลย” บอดี้การ์ดยังรายงานไม่จบ นายใหญ่ก็ออกคำสั่งทันที
“คุณลันตา เชิญทางนี้ครับ” บอดี้การ์ดร่างโตเดินเข้าไปหาหญิงสาวแล้วพาเดินออกมา
“จะพาฉันไปไหน” ลันตาเดินตามการ์ดได้เพียงสองสามก้าวก็เหลือบไปเห็นรถตู้คันใหญ่จอดอยู่ด้านหน้าไม่ไกลนัก
“.....”
“ฉันไม่ไปค่ะ” ขาสวยชะงักค้างหยุดเดินตาม
“ไปเถอะครับคุณลันตา ถ้าอยากได้ของคืน” ไมค์เดินออกจากรถตู้คันนั้น เพื่อนำเธอไปเพ้นเฮ้าส์ตามคำสั่ง ลันตาจำเป็นต้องก้าวออกมาตามคำแนะนำลูกน้องคนสนิทของเขา
รถตู้สีดำคันใหญ่ถูกขับเข้ามาจอดหน้าเพ้นเฮ้าส์หลังโต ร่างบางออกมาจากรถแล้วเดินตามไมค์เข้าไป
“เชิญครับ คุณลันตา” ไมค์เปิดประตูห้องทำงานบานใหญ่ออกให้หญิงสาวเข้าไป เธอจำห้องนี้ได้เป็นอย่างดี ขาสวยหยุดยืนอยู่หน้าห้องหายใจเฮือกใหญ่ก่อนจะเดินเข้าไปพบเขา ประตูบานใหญ่ก็ถูกปิด
ร่างกำยำของเซนต์นั่งอยู่บนเก้าอี้หรูหนังแท้กำลังอ่านเอกสารตรงหน้า เมื่อหญิงสาวเดินเข้ามาในห้องจึงลดมือลงเพื่อมองใบหน้าหวานนั้นแล้วกระตุกยิ้มเบาๆ
เขาเพิ่งกลับจากเยอรมันเมื่อคืน ตามจริงแล้วคงต้องอีกวันสองวันแต่งานทางนั้นเสร็จเร็วกว่ากำหนดบวกกับลูกน้องรายงานว่าเธอไปขอพบเขาที่มหาวิทยาลัยเมื่อวาน ทำให้เขาเลือกกลับมาทันที
ร่างบางก้าวเข้ามาหยุดอยู่ตรงหน้าโต๊ะทำงานของคนตัวโตที่จ้องมองเธอตั้งแต่เดินเข้ามาในห้องนี้
“เอ่อ...คือฉัน ฉัน...” เธอพูดติดๆ ขัดๆ เพราะเขากำลังมองอยู่ด้วยสายตาที่อ่านไม่ออก เธอจะพูดออกได้ยังไง เล่นมองซะขนาดนี้
คนตัวโตลุกขึ้นยืนเต็มความสูงกว่าหกฟุต ก้าวมาหาเธอที่กำลังหลบสายตาเชิงก้มหน้าอยู่ มายืนช้อนคนตัวเล็กจากด้านหลัง เมื่อรู้ถึงรังสีอันตรายเธอจึงเอี้ยวตัวหลบไปด้านข้าง แต่ไม่ทันร่างใหญ่จับเธอเข้าหาตัวดันให้ชิดกับโต๊ะทำงานโดยมีลำแขนแกร่งเป็นกำแพงกั้นส่งผลให้คนตัวเล็กไปไหนไม่ได้ กลิ่นกายหอมสะอาดบวกกันน้ำหอมราคาแพงกลิ่นชวนฝันของเขาทำให้เธอไม่เป็นของตัวเองอีกแล้ว
“หึ ว่าไง” คนตัวโตยื่นใบหน้าหล่อร้ายเข้าไปใกล้พลางเอียงคอถามอย่างมีนัย ทำให้คนตัวเล็กเงยหน้าขึ้นมามองเขาปลายจมูกแทบติดกัน ใบหน้าหวานหันหลบไปด้านข้าง
“ค..คุณถอยออกไปก่อนได้ไหมคะ ฉันหายใจไม่ออก” มือเล็กพยายามดันอกแกร่งให้ถอยออกไปแต่ก็ไม่ขยับออกสักนิด
“ไม่ คุยกันแบบนี้แหละ”
“คุณเซนต์คะ ฉันขอร้อง” เธอออกแรงผลักอกแกร่งสุดแรง ส่งผลให้คนตัวโตถอยหลังไปสองสามก้าว
“......” ร่างกำยำยอมถอยออกมา เพราะกลิ่นกายหอมอ่อนๆ บนตัวเธอทำเขาจะทนไม่ไหวอยู่แล้ว เย็นไว้ไอ้ลูกชาย
“คือฉันมาเอาของที่ลืมไว้บนรถคุณค่ะ” เมื่อร่างกายเป็นอิสระ หญิงสาวบอกจุดประสงค์ที่มาพบเขาทันที
“ฉันยกให้เธอแล้ว แต่เธอลืมเองนะ แล้วจะมาขอคืนแบบนี้มันไม่ง่ายไปเหรอ” พูดจบคนตัวโตก็พุ่งเข้ามาคว้าเอวคอดร่างแบบบางไว้ในอ้อมกอดผลักให้ล้มลงบนโซฟาใหญ่ มือหนาจัดการรวบมือเล็กสองข้างขึ้นไว้เหนือศีรษะ ส่งผลให้ร่างเล็กทำอะไรไม่ได้เลยนอกจากดิ้นยุกยิกยุกยิกไปมา แรงเท่ามดแค่นี้ทำอะไรเขาไม่ได้หรอก
“นี่คุณ ปล่อยฉันนะ อย่าทำอะไรฉันเลยนะคะ” คนตัวเล็กในอ้อมกอดเอ่ยขอร้อง นาทีนี้เธอกลัวจริงๆ
“เธอไม่รักษาของเองนะ” ทำเป็นหวงตัวเข้าไป ทั้งๆ ที่เจอผู้ชายมานักต่อนักแล้วละสิ กอดคนนั้นบ้างไปกับคนนี้บ้าง อย่าคิดว่าเขาไม่เห็น
“ขอโทษค่ะ คุณคืนให้ฉันเถอะนะคะ” เธอจะเก็บไว้อย่างดีเลย และไม่มากวนใจเขาอีก คนตัวเล็กมองสบตาเว้าวอนคนตัวโตที่กำลังทับร่างเธออยู่จนจะสิงเธออยู่แล้ว
“ได้ แต่ต้องมีข้อแลกเปลี่ยน” คนตัวโตเอียงคอถาม ก้มหน้าลงมาใกล้ใบหน้าหวานสวยหวังจะจูบให้ชื่นใจ แต่คนใต้ร่างเบี่ยงหน้าหลบได้ทัน ทำให้ปลายจมูกเรียวของเขาไปโดนซอกคอขาวนั่น ไม่โดนปากแต่โดนซอกคอก็ยังดี
“อ อะไรคะ ไม่นะ” มันต้องไม่ใช่แบบนี้สิ! ตอนนี้หญิงสาวคิดเอาตัวรอดไม่ได้เลย
“อืมม หอมมากลันตา”
หอมจนเขาทนไม่ไหวอีกต่อไป มือหนาเลื่อนมาปลดกระดุมกางเกงยีนของเธอไม่นานก็หลุดออกแล้วดึงรูดซิปกางเกงขาวลง มือสากเข้าไปสัมผัสบริเวณเนินสามเหลี่ยมมีแพนตี้ลายลูกไม้โผล่ออกมา ใบหน้าหล่อร้ายซุกวุ่นวายอยู่กับซอกคอขาว เลื่อนลงมาหาเนินหน้าอกหน้าใจสองลูกที่กำลังดุนดันอกแกร่งโดยมาผ้าเนื้อดีกั้นอยู่ ลิ้นร้ายเลียไปตามผิวขาวผ่องที่เปิดออกขบกัดจนเกิดรอยแดง
“คุณเซนต์ อย่าค่ะ ฉันขอร้องนะคะ” วินาทีนี้เธอกลัวอย่างสุดชีวิต พยายามหนีบขาเรียวชิดกันให้มากที่สุด อารมณ์เร่งเร้าของเขากำลังทำให้เธอตกหลุมพราง
“เงียบน่า…”
“ค...คุณเซนต์ ปล่อยนะ” ๆ
ร่างสูงยันตัวขึ้นมาเพราะไอ้กางเกงบ้าที่เขาพยายามถอดให้ออกแต่มันก็ยากเย็นเหลือเกิน แขนแกร่งช้อนร่างหญิงสาวขึ้นเดินเข้าไปในห้องนอนที่เชื่อมติดกับห้องทำงานของเขา
ร่างบางพยายามดีดดิ้นทุบแขนแกร่งให้หลุดจากอ้อมแขนเขาเพื่อเอาตัวรอด แต่ไม่เคยได้ผลสักครั้ง
ตุบบบ!
คนตัวโตที่อุ้มร่างบางเข้ามาโยนลงบนเตียงใหญ่ขนาดคิงไซต์หนานุ่ม แต่เพราะแรงมหาศาลที่ให้เธอเจ็บร้าวไปทั้งตัวได้เหมือนกัน เซนต์ขึ้นไปทาบทับตัวตัวเล็ก จัดการดึงกางเกงยีนของหล่อนออกเป็นอันดับแรกโดยไม่สนว่าผิวขาขาวมันจะเสียดสีกับเนื้อผ้าจนเกิดเป็นรอยแดงเถือก ตามมาด้วยเสื้อโค้ตและเสื้อยืดจนเหลือแค่ชุดชั้นในสองชิ้นที่อยู่บนตัวเธอ
“คุณเซนต์!!”
“สวยมาก...ลันตา” คนตัวเล็กเอนเอียงสายตาหวานเพื่อหลบดวงตาคมคู่นั้นกำลังมองสำรวจกายสาว สายตาคมเป็นประกายเมื่อเห็นสิ่งตรงหน้า
เขาไม่เคยเอ่ยชมคู่นอนคนไหน แต่เขากลับชมเธองั้นเหรอ...
มือหนารวบมือบางทั้งสองข้างขึ้นไว้ด้านบน ใบหน้าหล่อก้มลงสูดดมความหอมหวานบนตัวหญิงสาวไปทั่วทั้งตัวโดยเฉพาะเนินเนื้อหน้าอกโตที่โผล่พ้นขอบเสื้อชั้นในออกมา ลิ้นร้ายขบไปตามรอยเดิม สร้างรอยใหม่ไปเรื่อยๆ ไม่ปล่อยให้มือว่างลากผ่านเนินเนื้อสามเหลี่ยมดึงแพนตี้ตัวน้อยเลื่อนลงไปอยู่ต้นขาขาว นิ้วเรียวยาวกรีดลากผ่านกลีบดอกกุหลาบอวบอูมแล้วกดลงไปกลางกายสาวทันที
สวบบ!
“อ้ะ!...อื้อเจ็บ เอาออกไปนะ” ร่างบางดิ้นพล่านกับสัมผัสรัญจวน กลิ่นกายชายหอมสะอาดและอารมณ์ที่เขากำลังปลุกเร้ากำลังทำให้เธอหลงมึนเมาเสียอาการไปกับเขาซะให้ได้
“แน่นมาก!......” เซนต์ขยับนิ้วร้ายเข้าออกเนิบนาบ ขาขาวหุบเข้าหากันอัตโนมัติ ร่างกำยำเข้าไปแทรกกลางตัวหญิงสาวใช้ขาแกร่งดันขาขาวให้แยกออกจากกัน
“อ้าส์ อะ...อย่าา มันเจ็บ อื้อออ” ใบหน้าหล่อร้ายเลื่อนขึ้นไปปิดปากเธอสอดลิ้นหนาเข้าสำรวจปากเล็กอย่างดุดัน ปล่อยมือข้างที่จับข้อมือเล็กอยู่มาบีบขย้ำหน้าอกโตผ่านเสื้อชั้นใน นิ้วหัวแม่มือที่ว่างบดขยี้ติ่งเสียวสีแดงสด จนร่างเล็กบิดอ่อนระทวยด้วยความเสียว...
